ระบบแซ่ตระกูลของจีน

ระบบแซ่ตระกูลของจีน

1.   คนไทย...เชื้อสายจีน

2.  ระบบแซ่จีน  เป็นมรดกทางอารยธรรมของจีน 

      และเป็นการจัดระเบียบหน่วยหนึ่งของโครงสร้างสังคมจีน

3.   ที่มาของความเป็นแซ่จีน

4.   ประชากรจีนมีมากถึง 1,350  ล้านคน  มีทำเนียบแซ่  ทั้งประเทศจำนวนกี่แซ่

5.    มีแซ่จีนเพียง 19 แซ่  แต่มีสัดส่วน ประชากรมากถึง 750 ล้านคน

1.คนไทย...เชื้อสายจีน

            ในนิยามของชื่อเรียก  บ่งบอกตัวตนที่ทับซ้อนอยู่สองมิติ  ที่ผสมอัตลักษณ์ของไทยและจีน

            คนไทย...เชื้อสายจีน   มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดตามนิตินัย  รับการศึกษาในไทย  เติบโตในวิถีชีวิตของสังคมไทย อยู่ร่วมกับคนไทย  และเชื้อสายอื่นในไทย  เป็นพหุลักษณ์ทางชาติพันธุ์อย่างสนิทแนบเป็นเนื้อเดียวกัน

            คนไทย...เชื้อสายจีน  ส่วนใหญ่เปลี่ยนชื่อและนามสกุลเป็นไทย  แต่ก็คงดำรงแซ่จีนของตัวเองไว้  เป็นร่องรอยทางอัตลักษณ์จีน

            เมื่อจำเริญวัยอายุมากขึ้น  ความอยากรู้เรื่องราวแซ่ตระกูลตัวเอง  เป็นการสืบหาประวัติรากเหง้าของตัวเองที่ใกล้ตัวที่สุด

2. ระบบแซ่จีน  เป็นมรดกทางอารยธรรมของจีน     และเป็นการจัดระเบียบทางสังคมหน่วยหนึ่ง

            ระบบแซ่จีน  เป็นมรดกอารยธรรมของจีน  ที่สืบทอดประวัติศาสตร์มาตั้งแต่มียุคราชวงศ์  เป็นเวลายาวนานกว่าห้าพันปี  เป็นการจัดระเบียบสังคม  ที่แสดงประวัติรากเหง้าของบรรพชน  เป็นที่เกิดวัฒนธรรมความเป็นเผ่าพันธุ์ หน่วยหนึ่งของโครงสร้างสังคมจีน

            ระบบแซ่จีน  เป็นมากกว่าระบบนามสกุลของไทย  ที่เน้นถึงสมาชิกร่วมสายโลหิตของสายสกุลวงศ์   แต่แซ่จีนเป็นสิ่งที่เกิดความรู้สึกของคนกลุ่มหนึ่ง  ที่มิได้เป็นเครือญาติ ให้ผูกพันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่เชื่อมโยงถึงจิตสำนึกของบรรพชน ที่เคยร่วมประวัติศาสตร์ และเคยร่วมวัฒนธรรม

            แซ่จีน เป็นระบบ Clan  ที่รวมกลุ่มคนได้ใหญ่ที่สุดในโลก  เชื่อไหม...แค่เพียงคงแซ่ลี่ 李  (หลี่ – หลี) ตระกูลเดียว  มีสมาชิกร่วมแซ่ถึง 107 ล้านคน

3. ที่มา...ความเป็นแซ่ของคนจีน (姓)

- ระบบแซ่  เป็นอัตลักษณ์ และการจัดระเบียบอย่างหนึ่งของสังคมจีน ที่แสดงพงศ์เผ่า 

   เชื้อสายของกลุ่มชน ที่เชื่อมโยงถึงการปกครองระบบศักดินา  ตั้งแต่ยุคราชวงศ์โจว 

   (ก่อน ค.ศ. 771- 1046)  จะปรากฏชัดเจนในยุคราชวงศ์ฮั่น (ก่อน ค.ศ.206  - 220) 

   และมีการจัดทำเป็นทำเนียบแซ่ ในยุคราชวงศ์ซ่งเหนือ (ค.ศ.960 – 1127)

- โดยเฉพาะคนฮากกา  ที่มีประวัติการอพยพย้ายถิ่นจาก อาณาจักรจงหยวนยาวนานกว่า 

   1,700 ปี  ต้องบันทึกจัดทำปูมประวัติตระกูล (จู้ผู้)  

   ติดตัวตลอดการอพยพ  ถือเป็นหลักฐานสำคัญ

   แห่งชาติพันธุ์  เพื่อแสดงว่า ตัวเองเป็นชนเผ่าเร่ร่อน

   ไร้แผ่นดิน  แต่มีรากเหง้าเคยร่วมบรรพชนร่วมถิ่นฐาน 

    ร่วมประวัติศาสตร์ และร่วมวัฒนธรรม

- คำว่า แซ่ ในภาษาจีนกลางออกเสียงว่า ซิ่ง  

   แต่ในสังคมไทย  ออกเสียงเรียกตามสำเนียง

   แต้จิ๋ว  จนเป็นคำเฉพาะว่า  แซ่

- ระบบแซ่ของจีน มักใช้อยู่ติดกัน 2 คำ คือ 

  “ซิ่ง” กับ     “ซื่อ” (氏)

  “ซิ่ง” นั้น เดิมใช้กับฝ่ายผู้หญิง (แม่)   ส่วน “ซื่อ” นั้น 

  ใช้กับฝ่ายผู้ชาย (พ่อ)   เพื่อแสดง ยศศักดิ์ ตำแหน่ง  หน้าที่การงาน 

    สถานะ เกียรติ  ชื่อเสียงตระกูลในสังคม