สัดส่วนประชากรคนฮากกาในประเทศไทย



หมายเหตุ
1)     หนังสือ Chinese Society in Thailand ของ  Skinner  เดิมเป็นวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก 
     ถูกนำมาปรับปรุงตีพิมพ์เป็นหนังสือครั้งแรก เมื่อ  2500 / 1957  ได้รับการแปลเป็น   
     ภาษาไทยตีพิมพ์ครั้งแรก เมื่อปี 2529 / 1986  และพิมพ์ ครั้งที่ 2  เมื่อปี 2548 / 2005  
     โดยมูลนิธิโตโยต้า และมูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์ และมนุษย์ศาสตร์
2)     ระยะเวลาของสังคมจีนในไทยที่  Skinner  ศึกษาวิจัยนี้  อยู่ในช่วงทศวรรษระหว่าง 
     2490 - 2500 / 1947 - 1957  ซึ่งมีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม
     จีนในไทย    และกลุ่มประเทศในแถบอุษาอาคเนย์  เนื่องจากในปี 2492 / 1949  
     พรรคคอมมูนิสต์จีน ได้ชัยชนะเหนือพรรคก๊กหมิงตั๋งเด็ดขาด  ทำให้คนจีนไม่สามารถอพยพออกสู่ต่างประเทศ ได้อย่างเสรีด้วยนโยบายที่เข้มงวดของรัฐบาลจีน  ที่สำคัญคือรัฐบาลไทย
     ในยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ใช้นโยบายชาตินิยม จำกัดจำนวนคนจีนเข้าประเทศ
      จากเดิม 10,000  คน  เหลือ  200  คนต่อปี
3)     การเปลี่ยนแปลงในด้านนโยบายการเมืองทั้งจีนและไทยข้างต้น  ส่งผลให้ประชากรคนจีน
     ในไทยช่วงนั้นอยู่ในภาวะสถิต  เนื่องจากไม่มีคนจีนใหม่เข้ามาเพิ่ม และคนจีนที่อยู่เดิม
      ไม่กล้าเดินทางกลับสู่สมรภูมิ   ด้วยเกรงว่าจะไม่สามารถกลับเข้าไทยได้อีก
4)     ผลที่ตามมาอีกประการหนึ่ง ทำให้คนจีนจำเป็นต้องปรับตัวกลืนกลาย (Assimilation
     เข้าสู่สังคมไทยอย่างไม่มีทางเลือก  ด้วยนโยบายที่กีดกัน และจำกัดบทบาทของคนจีนที่
     ตามมาอีกหลายประการของรัฐบาล  จอมพล ป.พิบูลสงคราม  และจอมพลสฤษดิ์  ธนรัฐ  
     เป็นเวลาที่ยาวนานกว่า  30  ปี  ทำให้ลูกหลานของคนจีนต่างด้าวในช่วงหลังจากปี  
     2492 / 1949  ได้กลายมาเป็น "คนไทยเชื้อสายจีน"  รุ่นที่ 2- 4 ที่อยู่ร่วมกับสังคมไทยที่หลากหลายด้วยชาติพันธุ์และวัฒนธรรมอย่างกลมกลืน
5)     การที่ศูนย์ฮากกาศึกษา - ประเทศไทย ยึดถือตัวเลขของ Skinner เป็นเกณฑ์คำนวณนี้  ด้วยเหตุผลดังนี้
-        บริบทเรื่องระยะเวลาที่ Skinner ทำการศึกษานั้น  เป็นช่วงปี 1947 - 1957 / 2490 - 2500  
     ซึ่งโครงสร้างประชากรจีนในไทยออู่ในภาวะนิ่งที่สุด กระแสการเคลื่อนไหวออก - เข้า  
     ของคนจีนในไทยอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด  ด้วยนโยบายการเมืองที่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลทั่วไปไทยและจีน
-       ข้อมูล  ตัวเลข สถิติ  ต่างๆ ที่ Skinner จัดทำและเขียนนั้น  มีความเป็นระบบ การอ้างอิง
     ที่ดีกว่าแหล่งข้อมูลอื่น หรือนักวิชาการอื่น
-        เชื่อว่า ทีมงานของ Skinner ต้องมีกูรูนักวิชาการจีนในยุคนั้นร่วมด้วย  เนื่องจากข้อมูล
     หลายอย่าง  เป็นเรื่องจำเพาะเชื้อสายจีนแต่ละองค์กร และแต่ละท้องถิ่น